วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

10 อันดับคำค้นหาน่าตกใจใน Google




         ทุกวันนี้ไม่ว่าจะหาข้อมูลอะไรเราคงเลือกที่จะนั่งค้นหาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์มากกว่าการออกไปหาหนังสือตามห้องสมุด เพราะนอกจากจะสะดวกสบายกว่าแล้วยังประหยัดเวลาไปในเวลาเดียวด้วย และเวปไซต์ที่คนเลือกที่จะใช้ค้นหามากที่สุดนั่นก็คือ Google นั่นเอง ที่ในแต่ละวันมีคนเข้าใช้เป็นหลักสิบล้าน!! แต่คนเหล่านั้นจะเข้ามาค้นหาอะไรก็ไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆคือมีคำถามแปลกๆ ตลกๆ และไม่น่าเชื่อว่าคนจะค้นหาเยอะขนาดนี้ ซึ่งวันนี้เราก็เอามาฝากให้ทุกคนได้อ่านกัน...ไม่แน่คำเหล่านี้อาจจะเป็นคนที่คุณเคยค้นก็เป็นได้!!

10. How to have an affair? : วิธีการมีชู้ (ค้นหาเฉลี่ย 5,400 ครั้ง/เดือน)





     แหม ช่างเป็นคำค้นหาที่บอกอะไรได้หลายอย่างเสียจริง “วิธีการมีชู้” คงจะช่วยให้ใครหลายๆคนมีกิ๊กได้โดยที่ไม่ถูกสามี-ภรรยาจับได้ ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่ามันผิด แต่ก็ยังจะทำเพราะคงกลัวว่าจะโดนจับได้เลยต้องมาหาข้อมูลจากประสบการณ์ของชาวบ้านซะก่อน ก็หวังว่า 1 ในนั้นคงไม่ใช่สามี-ภรรยา ของใครแถวนี้แล้วกัน


9. How to mend a broken heart? : วิธีสมานแผลใจ คนอกหัก (ค้นหา

เฉลี่ย 9,900 ครั้ง/เดือน)




     ไม่ว่าใครก็คงต้องเคยตกหลุมรักกันทั้งนั้น แต่มันจะยิ่งแย่ไปใหญ่เมื่อคุณตกหลุมรักคนที่เพิ่งอกหักมาหมาดๆ เพราะเค้าคงจะกำลังเจ็บปวดกับความรักครั้งเดิม ที่ทิ้งแผลเป็นไว้เตือนใจว่ามีความรักแล้วมันเจ็บแบบนี้!! จึงทำให้ยากที่จะมีรักใหม่ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของคุณแล้วหละที่ต้องหาวิธีสมานแผลนั้น คำค้นคำนี้คงจะช่วยคุณได้ เพราะดูจากปริมาณคนหาแล้วคงจะได้ผลดีทีเดียว


8. How to ask a guy out? : วิธีขอผู้ชายออกเดท? (ค้นหาเฉลี่ย 14,800

ครั้ง/เดือน)







     คุณผู้หญิงสมัยนี้ก็ใจกล้ากันจริงๆ ถึงกับต้องหาวิธีชวนผู้ชายออกเดท ก็แหมชายแท้สมัยนี้มีน้อยจะตาย บางคนเห็นว่าออกจะแมนแต่จริงๆกลับสาวแตก กินกันเองทำให้สาวๆทั้งหลายต้องรีบคว้าชายในดวงใจที่เจอซะก่อน ก่อนที่จะมีคนอื่นมาแย่งไป ซึ่งดีไม่ดีอาจจะไม่ใช่ผู้หญิงก็เป็นได้!!


7. Why do men have nipples? : ทำไมผู้ชายต้องมีหัวนม? (ค้นหาเฉลี่ย

18,000 ครั้งต่อเดือน)





     นี่ก็ช่างสงสัยกันซะจริงๆ คงเป็นเพราะดูๆไปแล้วเต้านมของผู้ชายไม่ได้มีไว้ใช้ประโยชน์เหมือนอย่างผู้หญิงที่เวลามีลูกก็เอาไว้ให้นมลูกได้ จึงพากันสงสัยว่าแล้วจะมีเอาไว้ทำไม? ซึ่งคนที่หาคำเหล่านี้คงจะเป็นตัวคุณผู้ชายเองที่ยังสงสัยในอวัยวะในร่างกายอยู่ เผื่อว่ามันมีประโยชน์อย่างอื่นจะได้ใช้มันให้คุ้มใช่มั้ยหละ?


6. Is Lady Gaga A Man? : เลดี้ กาก้า เป็นผู้ชายรึเปล่า? (ค้นหาเฉลี่ย

18,100 ครั้ง/เดือน)






     เป็นคำค้นหาที่ช่างทำร้าย เลดี้ กาก้า เหลือเกิน ขนาดชื่อของเธอก็สามารถที่จะบ่งบอกเพศได้แล้วว่าชั้นเป็นผู้หญิงนะ!! อีกทั้งเธอยังพยายามแต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อย เปิดเผย-ส่วนสุดๆ แต่คนกลับยังคิดว่าเธอเป็นผู้ชาย? อาจจะเป็นเพราะความกล้า บ้าบิ่น ที่คนไม่คิดว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะกล้าทำได้ถึงขนาดนี้ จึงทำให้คนอยากรู้ถึงเพศที่แท้จริงขอเธอกันสุดๆ 


5. I hate my job : ฉันเกลียดงานที่ทำอยู่ (ค้นหาเฉลี่ย 22,000 ครั้ง/

เดือน)






     คงเป็นคนที่ประสบปัญหานี้และไม่รู้จะไประบายกับใคร เลยต้องเข้าไปอ่านประสบการณ์ของคนอื่น ที่อาจจะช่วยให้งานที่คุณเกลียดอยู่ตอนนี้ดูดีขึ้นมาในพริบตาเมื่อเทียบกับเรื่องที่คนอื่นๆนำมาเล่า หรือถ้าคับแค้นใจจริงๆก็คงจะร่วมโพสต์เรื่องของตัวเองลงไป แต่ยังไงก็ยังดีกว่าตะโกนคำนี้ออกไปต่อหน้าเจ้านายก็แล้วกัน เพราะจากที่มีงาน (ที่ถึงแม้จะเกลียด) อยู่ก็ยังดีกว่ากลายเป็นคนตกงาน!!


4. How to win the lottery? : วิธีทำให้ถูกหวย (ค้นหาเฉลี่ย 40,500

ครั้ง/เดือน)





   
     ก็เป็นวิธีที่ทำให้รวยได้ง่าย ภายในพริบตาเท่านั้นคุณก็จะกลายเป็นเศรษฐี แล้วใครกันหละที่จะไม่อยากรวยแบบนี้ คนจึงพากันหาวิธีรวยทางลัดแบบนี้ เพราะคงจะมีเคล็ดลับอะไรมาบอกกันบ้าง แต่คงจะลืมกันไปว่าเรื่องพวกนี้คงไม่มีใครช่วยคุณได้นอกจากดวงเท่านั้น!! และถ้าวิธีการเหล่านี้ใช้ได้ผลจริงๆคงไม่มีใครมานั่งทำงานงกๆกันแบบนี้หรอก



3. Why did i get married? : ทำไมฉันถึงแต่งงานหละเนี่ย? (ค้นหาเฉลี่ย

45,500 ครั้ง/เดือน)





     ช่างเป็นคำค้นที่เข้ากับสังคมในปัจจุบันซะจริงๆ ก็ทุกวันนี้คนแต่งงานโดยที่ไม่ได้คิดไตร่ตรองในดี เอาแค่เหตุผลแค่ว่ารักเป็นหลัก ทั้งๆที่ยังไม่รู้ถึงข้อเสียของแต่ละคนที่คุณอาจจะรับได้ หรือไม่ได้ แต่พอรับไม่ได้ชีวิตคู่ของคุณก็จะเต็มไปด้วยความทุกข์!! เป็นเหตุให้ต้องมานั่งหาคำตอบว่าทำไมถึงได้แต่งงาน?


2. Is Santa Real? : ซานตาครอสมีหรือเปล่า? (ค้นหาเฉลี่ย 60,500 ครั้ง

ต่อเดือน)





     ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ก็ต่างมีความสงสัยในเรื่องเดียวกัน ว่าซานตาครอส ที่เคยได้ยินเรื่องราวมาตั้งนมนานนั้นมีอยู่จริงรึเปล่า ชายตัวอ้วน เคราสีขาวรุงรัง ที่มาพร้อมกับชุดสีแดง และหอบถุงที่เต็มไปด้วยของขวัญมาให้เด็กๆที่น่ารัก นั้นเป็นเพียงเรื่องที่เล่าต่อๆกันมา เพื่อให้เด็กทำตัวดีแลกกับของขวัญที่ซานต้าจะนำมาวางไว้ตรงหน้าเตาผิงหรือไม่? ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่มีใครพิสูจน์ได้ แม้แต่ Google ก็ตอบคำถามข้อนี้ของคุณไม่ได้


1. Lady Gaga Naked : รูปเปลือย เลดี้ กาก้า (ค้นหาเฉลี่ย 135,000 ครั้ง/

เดือน)





      เรียกได้ว่าใครไม่รู้จักเธอคนนี้คงเชยจริงๆ เพราะไม่ว่าสื่อไหนๆก็จะประโคมลงข่าวของเธอทั้งนั้น ด้วยบุคลิก และการแต่งกายที่แปลกประหลาดจนมนุษย์ต่างดาวเรียกพี่!! ทำให้ใครหลายคนหันมาสนใจเธอเป็นอย่างมาก จับตามองการแต่งตัวของเธอทุกวันว่าจะมีอะไรมาให้ประหลาดใจอีกรึเปล่า แต่สิ่งที่คนอยากเห็นกันสุดๆคงจะเป็นภาพ “เปลือย” ของเธอนั่นเอง ทั้งๆที่ปกติเธอก็แต่งตัวโชว์ส่วนนั้นบ้าง ส่วนนี้บ้าง ก็ยิ่งเป็นส่วนกระตุ้นให้คนอยากเห็นแบบเต็มๆทั้งตัว!!



เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 อันดับคำค้นหาน่าตกใจใน Google เพื่อนๆเคยค้นหาอันไหนกันบ้างรึเปล่า ส่วนจขกท.ยังไม่เคยเลยสักอย่างค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาชมกระทู้ค่ะ


Cr.http://www.toptenthailand.com

10 นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์สุดเจ๋งที่ต้องทึ่ง

 มนุษย์ มักจะสรรค์สร้างอะไรใหม่ๆเสมอ เพื่อทดแทนสิ่งที่ขาด หรือพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เรียกได้ว่าจินตนาการและความสร้างสรรค์ของมนุษย์นั้นไม่มีขีดจำกัดจริงๆ และเราได้รวบรวม 10 สิ่งประดิษฐ์ที่ทำให้คุณต้องทึ่งมาไว้ที่นี่แล้ว พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ

10. 5 in 1 table game




     กระดานหมากรุก, ทอยลูกเต๋า, โต๊ะปิงปอง, โต๊ะแทงพูล, เกมยิงบอล.. ทั้ง 5 เกมนี้ถูกรวมรวมมาไว้เพียงโต๊ธๆเดียวแล้ว! จะหารกันซื้อแล้วร่วมกันเล่น หรือหารกันซื้อแล้วแบ่งไปเล่นกันคนละอันก็ยังได้

9. Easy To Find Tape




     เคยเจอปัญหาในการใช้เทปใสกันหรือไม่? กว่าจะหาปมสุดท้ายที่ใช้ทีก็เสียเวลาไปนาน แต่..Easy To Find Tapeช่วยคุณได้! คุณไม่ต้องเสียเวลานั่งงมหาด้านปลายของสก็อทเทปอีกต่อไป ด้วยรูปทรงวงกลมเป็นลูกคลื่นก็แก้ปัญหาได้ง่ายเหมือนปลอกกล้วย

8. Kiss Me Meter Breath Checker



     เป็นที่กังวลใจของใครหลายๆคนมากในเรื่องของ "กลิ่นปาก" เพราะมีสาเหตุมากมายที่ก้อให้เกิดกลิ่นปากไม่ว่าจะเป็น การอื่มชากาแฟ สูบบุหรี่ หรือ ทานอาหารที่มีกลิ่นฉุน ทำให้หลายๆคนกังวลจนเสียจนไม่มั่นใจในกลิ่นปากของตัวเองแค่อุปกรณ์ Kiss Me Meter Breath Checker นี้คือเครื่องวัดระดับปากเหม็น เพียงคุณวัดระดับกลิ่นไม่พึงประสงค์จากช่องปากก็สามารถเพิ่งความมั่นใจในตัวเองได้แล้ว

7. Swiss Army Knife Victorinox SSD



     Swiss Army Knife Victorinox SSD แม้ แต่สิ่งประดิษฐ์คลาสสิคอย่างมีดพับสวิสอาร์มี่ย์ก็ต้องปรับให้เข้ากับยุค สมัย ด้วยการเพิ่มยูเอสบีแฟลชไดรฟ์สำหรับเก็บข้อมูลไปด้วย เผื่อจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ขณะตั้งแคมป์อยู่ในป่าค้า แหม่..รอบคอบเสียจริง

6. Portotrash



     หมดปัญหาเรื่องขยะ หรือเศษอาหาร หล่นตามพิ้นขณะเก็บโต๊ะให้สะอาด เพราะPortotrash คืออุปกรณ์สำหรับยึดติดกับขอบโต๊ะสำหรับแขวนถุงพลาสติคใช้เป็นถุงขยะ เหมาะสำหรับเวลาทำครัวหรือทำงานฝีมือ สะดวก และสะอาดจริงๆ

5. Mini Dock Wall Socket



ไม่ต้องพึ่งเม็ดบีทถนอมสายชาร์ต ไม่ต้องคอยม้วนสายชาร์ตเก็บให้เป็นระเบียบ(แถมสายยังเปราะง่ายอีก) Mini Dock Wall Socket จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของสาวกIphoneให้ง่ายขึ้น เพียงเสียบกับกำแพงตามภาพ! ใช้ง่ายและสวยงามเป็นระเบียบกว่าสายชาร์จแบบเก่าที่ดูเกะกะรุงรังขึ้นเยอะเลย

4. Foodface



     เป็นปัญหาสำหรับคุณพ่อ-คุณแม่มือใหม่แทบทุกคู่เมื่อลูกรักงอแงไม่ยอมกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ แน่หละว่าอาหารหลักไม่อร่อยเท่าของหวาน ดังนั้นการหลอกล่อให้ลูกรักยอมกินไม่ใช่เรื่องง่ายๆแน่ๆ Foodface ช่วยคุณได้ เพียงแต่งหน้าตาให้อาหารดูน่ารักน่าชัง ผสมกับความสร้างสรรค์อีกนิดหน่อย ลูกรักของคุณก็ยอมกินแต่โดยดีแล้ว

3. Dynamic Luminous Ceiling Sky




     Dynamic Luminous Ceiling Sky คือเพดานที่เป็นจอแอลซีดี โดยจำลองภาพท้องฟ้าเสมือนจริงที่จะเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ เหมาะสำหรับที่อยู่อาศัยทุกประเภท แนะนำให้ติดเพดานชนิดนี้ให้แก่พนักงานออฟฟิศ เพิ่มความรื่นรมย์ในการทำงาน และยังเป็นการหลอกพนักงานให้เข้าใจว่ายังเป็นตอนกลางวันอยู่!

2.Anti theft chair



     เก้าอี้ที่มีที่แขวนกระเป๋าได้ เพื่อความสะดวก และเพื่อความปลอดภัยจากพวกมือไวคว้ากระเป๋าของคุณติดมือไป ป้องกันขโมยได้ชะงัดนักแล

1. Icon Spaghetti Measuring



     หมดปัญหาเรื่องสปาเก็ตตี้มื้อนี้จะเหลือหรือขาดด้วยIcon Spaghetti Measuring ช่วยให้คุณกะปริมาณของเส้นสปาเก็ตตี้ได้ว่าจะต้องใช้เท่าไหร่ เพศชาย เพศหญิง เด็ก และรูปม้า(ซึ่งหมายถึงปริมาณสำหรับกินหลายคน)


เป็นยังไงกันบ้างคะกับ10 นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์สุดเจ๋ง
เพื่อนๆชอบอันไหนกันบ้าง
ขอบคุณที่เข้ามาชมคะ



Cr.http://www.toptenthailand.com

ฉลามก็อบลิน[goblin shark] ตัวแรกที่ถูกค้นพบในรอบหลายร้อยปี

    เป็นการถกเถียงกันมากพอสมควรเกี่ยวกับสัตว์ทะเลน้ำลึกกันจำนวนมาก ว่าพวกมันมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงเเค่เรื่องที่ถูกเเต่งขึ้นมา
    เเต่นี้คือหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับสัตว์ทะเลน้ำลึกเหล่านี้ว่ามีอยู่จริง ในรอบหลายร้อยปีกับการยืนยันของปลาโบราณที่มีคนรู้จักน้อยมากอย่าง goblin shark หรือ ปลาฉลามก็อบลิน

    เป็นเวลาหลายปีที่นักวิทยาศาสตร์ออกตามหาฉลามชนิดนี้เเทบพลิกมหาสมุทร เเต่ก็ไม่เคยพบร่องรอยที่สามารถระบุการคงอยู่ของฉลามชนิดนี้ได้เลย จนเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา ชาวประมงชื่อ Carl Moore เป็นชาวประมงจากรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ได้เจอกับฉลามชนิดนี้โดยบังเอิญ ขณะกำลังลากอวนกุ้งขึ้นมาจากความลึก 2000 ฟุตของจุตที่ทำประมงที่เรียกว่า The coast of Key West เเละได้รับการยืนยันว่าเป็นฉลามก็อบลินจริงๆ
   
    ฉลามก็อบลิน ที่เขาบังเอิญจับได้ตัวนี้มีความยาว 15 ฟุต เเละคาดว่ากุ้งจะเป็นเหยื่อที่ล่อให้ฉลามตัวนี้ว่ายมากินจนทำให้มันติดอวนเเล้วถูกจับโดยชาววประมงในที่สุด ซึ่งเมื่อก่อนหน้านี้ปี 1898 ฉลามพันธุ์นี่เคยถูกค้นพบครั้งเเรกที่ญี่ปุ่น เเละมีจำนวนถึง 50ตัว เเละในปี 2007 มีการกล่าวอ้างว่าญี่ปุ่นได้ประสบความสำเร็จในการนำเอาฉลามสายพันธุ์นี้ขึ้นมาจัดเเสดงในพิพิธภัณฑ์ ถึงเเม้มันจะอยู่ได้เพียงไม่นานก็ตาม

ผู้ป่วยเล่นไวโอลินขณะเข้าผ่าตัดสมอง จนทีมแพทย์ทำสำเร็จ

    นี่คือสุดยอดการผ่าตัดระดับปาฏิหาริย์” นี่คือความคิดแวบแรกที่แล่นเข้ามาในหัวหมีขาว หลังจากล่าสุดคนไข้รายหนึ่งได้ทำเรื่องน่าเหลือเชื่อ เล่นไวโอลินกลางห้องผ่าตัดท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด เพื่อช่วยให้ทีมแพทย์สามารถฝังขั้วไฟฟ้าลงไปในสมองได้!
     โดยผู้ป่วยรายนี้มีชื่อว่า Roger Frisch ซึ่งเขาเป็นปรมาจารย์ทางดนตรีที่ร่วมแสดงกับวงออเครสต้าMinnesota แต่แล้ววันหนึ่งนิ้วของเขาก็ขยับผิดปกติไปจากเดิมและนั่นทำให้เสียงดนตรีอันไพเราะผิดเพี้ยนไปหมด จากนั้นแพทย์ได้วินิจฉัยว่า ประสาทส่วนควบคุมการสั่นไหวในตัวเขาผิดปกติ” และหากไม่รักษาก็เป็นไปไม่ได้ เลยที่จะกลับมาเล่นดนตรีระดับปรมาจารย์ได้อีกครั้ง
     ซึ่งนั่นทำให้ Roger Frisch ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดสมองในทันที แต่การผ่าตัดก็มีเงื่อนไขอยู่ว่ามันจะสำเร็จได้ต่อเมื่อคุณเล่นไวโอลินเท่านั้น” และแม้นี่จะฟังดูบ้าสุดขั้ว แต่แพทย์ได้ระบุว่าคนทั้งทีมจำเป็นต้องช่วยกันเช็คว่าสมองส่วนไหนที่เกิดปัญหา และมีเพียงการเล่นดนตรีเท่านั้นที่สามารถเช็คความผิดปกติได้ จากนั้นทีมแพทย์ก็จะฝังขั้วไฟฟ้าขนาดเล็กลงไปเพื่อช่วยให้สมองกลับมาทำงานปกติ
     จากนั้นปาฏิหาริย์ก็ได้เริ่มขึ้นเมื่อนักดนตรีเฒ่าบรรเลงบทเพลงท่ามกลางห้องผ่าตัด จากนั้นทีมแพทย์ก็สอดประสานทุ่มเททั้งหัวใจในการทำงานให้ลุล่วงมันเป็นการผ่าตัดที่กินเวลานาน และทุกคนต่างก็เฝ้าคอย แต่ในที่สุดแพทย์ก็ผลักประตูออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม และนั่นหมายความว่าการผ่าตัดอันน่าเหลือเชื่อประสบความสำเร็จ!!!!
     ที่ตื้นตันยิ่งกว่านั้นคือ หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้นเพียงหนึ่งเดือน ประสาทสัมผัสและนิ้วของ Roger Frisch ก็สามารถควบคุมไวโอลินได้ปกติดังเดิมและนั่นทำให้เขาสามารถสำแดงเสียงดนตรีอันไพเราะจากก้นบึ้งหัวใจออกมาได้อีกครั้ง
                                                                                         

14 อุปกรณ์ธรรมดาๆ ที่ใส่เทคโนโลยีสมัยใหม่ จนกลายเป็นของล้ำยุค

14 อุปกรณ์ธรรมดาๆ ที่ใส่เทคโนโลยีสมัยใหม่ จนกลายเป็นของล้ำยุค


ปัจจุบันข้าวของเครื่องใช้นั้นถูกพัฒนาให้มีความล้ำหน้าและสะดวกสบายต่อ การใช้งานอยู่ตลอดเวลา จนเราอาจจะคิดไม่ถึงเลยว่า ในอนาคตโลกของเราจะเป็นยังไง
ล่าสุด David Rose นักพัฒนาและนักวิจัยจาก M.I.T. Media Lab ได้ทำให้อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือที่ธรรมดาๆกลายเป็นอะไรที่มากกว่าคำว่า ธรรมดาโดยใช้เทคโนโลยี และวันนี้ผมก็ได้รวบรวมเอาที่ 15 ที่สุดของสิ่งของเหล่านั้นมาให้ดูได้กระจ่างกันว่า “มันมีอยู่จริง”

1.The Vitality GlowCap

14
นี่คืออีกหนึ่งกล่องบรรจุยาที่ดูเหมือนธรรมดาแต่หารู้มั้ยว่าเมื่อถึง เวลาที่คุณต้องทานยาแล้วนั้นมันจะเปิดไฟเตือน ส่งเสียงจ๊อกแจ๊กจนคุณต้องเปิดออกมาทานจนได้สิ

2. The Ambient Umbrella

13
นี่คือร่มสุดเจ๋ง หากมีการพยากรณ์อากาศว่าฝนหรือหิมะจะตก ด้ามของร่มตัวนี้ก็จะส่องแสงเตือนให้คุณได้รู้และพกมันออกไปนอนบ้านด้วย

3. The Google Latitude Doorbell

12
นี่คือเครื่องที่จะส่งเสียงเมื่อมีสมาชิกครอบครัวคนใดคนหนึ่งมากถึงบ้านแล้ว แต่ละบ้านก็เสียงไม่เหมือนกันด้วยนะ

4. The Ambient Orb

11
นี่เปรียบเสมือนลูกแก้ววิเศษที่จะอัพเดทข้อมูลตลาดหุ้น การจราจร และข้อมูลอื่นๆ มากไปกว่านั้นเจ้าลูกแก้วยังจะเปลี่ยนสีเพื่อบอกคุณว่าข้อมูลนั้นดีหรือไม่ ดีอีกด้วย

5. The Energy Joule

10
นี่คือเครื่องมือที่ใช้วัดค่าไฟให้คุณได้ สีแดงแปลว่าแพงไป สีเหลืองอยู่ในระดับกลางๆ และ สีเขียวอยู่ในระดับที่ถือว่าถูก

6. The Facebook Coffee Table

9
นี่คือโต๊ะที่จะทำงานต่อเสียง เมื่อมีคนในวงสนทนาเอ่ยอะไรขึ้นมา เจ้าโต๊ะตัวนี้มันก็จะโชว์รูปจากเฟสบุคของคุณที่เกี่ยวข้องกับคำนั้นขึ้นมา

7. MemoMi

8
นี่คือกระจกที่จะให้คุณได้บันทึกภาพของเสื้อผ้าที่คุณเคยลองแล้วเอามาเปรียบเทียบกับชุดใหม่ที่พึ่งไปเลือกมา

8. The Amazon Trash Can

7
อะไรก็ตามที่คุณทิ้งลงไป เจ้าถังขยะใบนี้จะสแกนและสั่งตรงจาก Amazon ให้โดยอัตโนมัติเลยทีเดียวเชียว

9. The Pandora Chair

6
เก้าอี้ตัวจะเล่นเพลงตามระดับความเอียงของของพนักพิง เมื่อคุณเอนตัวน้อยเพลงก็จะมีจังหวะเร็วและเมื่อเอนตัวมากขึ้นเพลงที่เล่น นั้นก็จะมีจังหวะช้าลง

10. Vessyl

5
นี่คือแก้วสุดล้ำที่จะบอกว่าคุณกำลังดื่มอะไร และมากไปกว่านั้นมันยังสามารถบอกได้อีกว่าเครื่องดื่มนี้มีระดับแคลอรี่ น้ำตาล โปรตีน โซเดียม และ คาดเฟอีนเท่าไหร่

11. The Skype Cabinet

4
ขอเรียกมันว่าตู้คุย Skype ละกัน เพราะเจ้าตู้นี้จะทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อ Skype ให้คุณและเพื่อนหรือคนรักของคุณได้พูดคุยกัน

12. TrakDot

3
เพียงแค่ใส่เจ้านี่ลงไปในกระเป๋าเดินทาง คุณก็สามารถรู้ได้ว่าตอนนี้มันอยู่ที่ไหน ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Trakdot ด้วยสมาร์ทโฟนนั่นเอง

13. The Energy Clock

2
นี่คือนาฬิกาที่จะคอยบอกคุณว่าที่ผ่านมาคุณใช้พลังงานมากไปขนาดไหน สีแดงแปลว่ามากไป ในขณะที่สีเขียวแปลว่าคุณใช้พลังงานในระดับที่ต่ำ

14.The Goji Smart Lock

1
นี่คืออุปกรณ์ที่สามารถส่งภาพมาบอกคุณได้ว่าใครกำลังอยู่ที่หน้าประตู และคุณสามารถล๊อคเละปลดล๊อคประตูได้ผ่านทางสมาร์ทโฟน มากไปกว่านั้นเมื่อประตูของคุณถูกปลดล๊อคมันก็จะเตือนคุณอีกด้วย

10 รูปที่แทนคำพูดนับล้าน!


     ภาพหนึ่งภาพแทนคำพูดนับพันคำ "A picture is worth a thousand words." เชื่อว่าทุกคนต้องเคยได้ยินประโยคนี้ แต่คงมีน้อยคนที่จะเคยเห็นภาพที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้นได้ เราจึงได้รวบรวม 10 ภาพที่เมื่อเห็นแล้วก็จะพูดไม่ออก เพราะภาพเหล่านี้ต้องใช้ความรู้สึกในการบรรยายออกมาเท่านั้น

10. อ้อมกอดของแม่



     ภาพสุดสลดนี้เป็นภาพที่ถ่ายเด็กกำพร้าชาวอิรักคนหนึ่ง ที่วาดรูปใครสักคนขึ้นมาเพื่อที่ตัวเองจะได้นอนทับไปบนรูปนั้น ให้เหมือนกับว่าได้นอนอยู่ในอ้อมกอดของแม่อีกสักครั้ง

9. เกิดจากความไม่ตั้งใจ..



     ชายชาวลิโทเนี่ยนคนนี้ อยู่ในสภาพช็อค หลังจากเกิดอุบัติเหตุที่เขาขับรถชนเด็กอายุ 8 ขวบเสียชีวิตอย่างน่าสลด

8. พ่อ-ลูก



     ภาพนี้สะท้อนให้เห็นอะไรๆหลายๆอย่าง ที่เด็กตัวเล็กๆคนนึง พยายามจะลากพ่อของเขาที่เมาปลิ้นจนไม่รู้สึกตัวให้ลุกขึ้นมาเดินได้อย่างคนปกติ

7. ความสูญเสีย



     ภาพที่น่าสงสารนี้เป็นภาพผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งร้องไห้ อย่างน่าสงสาร หลังจากสูญสิ้นทุกอย่างที่เธอมีไปจนหมด ทั้งบ้าน ทรัพย์สินทุกอย่าง รวมถึงครอบครัวที่เธอรัก ในเหตุการณ์สึนามิซัดญี่ปุ่น เมื่อปี 2011

6. อิสรภาพ



     ภาพผู้หญิง และเด็กเหล่านี้ คือเชลยศึกชาวยิวที่ถูกช่วยเหลือได้ทันเวลา ก่อนที่จะต้องโดนส่งไปฆ่าอย่างทารุณที่ค่ายกักกันของนาซี จะเห็นได้ว่าทุกคนแสดงออกถึงความดีใจทั้งร้องไห้ และยิ้มในเวลาเดียวกัน นี่คงจะเป็นความสุขที่สุดในชีวิตของพวกเค้าเลยก็ว่าได้

5. ผู้มีพระคุณ



     เด็กชายผิวสีที่กำลังเล่นไวโอลินไปน้ำตาไหลไปคนนี้ คือเด็กอายุ 12 ปี ชาวบราซิล ที่ต้องมาเล่นเพลงในพิธีฝังศพของครูที่เค้านับถือ ผู้ที่คอยช่วยเหลือให้เค้าพ้นจากความยากลำบาก และความรุนแรงที่เค้าต้องเจอมาเกือบทั้งชีวิต

4. ความสุข?



     เจ้าหน้าที่ชาวตุรกีคนหนึ่ง นึกอยากเล่นสนุกโดยการนำขนมปังมาเย้าแหย่เด็กน้อยผู้หิวโหยชาวอาร์เมเนี่ยน เพื่อเอาความสะใจส่วนตัว ในช่วงการสังหารหมู่ชาวอาร์เมเนียน ปี 1915

3. เพื่อน...



     ผู้ชายในรูปคือ นายคอนสแตนติน โปนิน อายุ 86 ปี ที่เป็นทหารผ่านศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จากเบลารุส ภาพนี้ถ่ายเมื่อ วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2011 โดยในทุกๆปี ชายคนนี้จะมานั่งที่ม้านั่งตัวเดิม เพื่อรอสหายผู้ร่วมฝ่าฝันช่วงเวลาอันยากลำบากของสงคราม เพื่อมาร่วมฉลองวันแห่งชัยชนะร่วมกัน แต่ปีนี้กลับไม่เหมือนปีก่อนๆ เพราะมีเค้าเพียงคนเดียว...

2. ประณาม



     ภาพนี้เป็นภาพที่ถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงหนึ่ง ที่เกิดการประณามช่างภาพคนนี้อย่างรุนแรง ที่ไม่ยอมไปช่วยเด็กในรูป ที่กำลังจะตายเพราะขาดอาหาร และยังโดนอีแร้งจ้องจะกินเป็นอาหาร ทั้งๆที่ค่ายของผู้ลี้ภัยห่างจากที่นั่นเพียง 1 กิโลเท่านั้น แต่เค้ากลับเลือกที่จะเดินจากมาโดนไม่ให้ความช่วยเหลือ แต่ 3 เดือนต่อมาเค้าก็ต้องฆ่าตัวตายหลังจากที่ถูกสังคมกดดันมากๆ

1. คนสุดท้าย



     ภาพนี้ถ่ายในขณะที่ทหารนาซีกำลังจ่อปืนใส่หัวของชายชาวยิว ที่เชื่อว่าเป็นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ ซึ่งกำลังนั่งชันเข่าอยู่บนหลุมศพที่เต็มไปด้วยร่างอันไร้วิญญาณของพี่น้องชาวเมืองวินนิสซ่าของเค้า ที่ประเทศยูเครน ปี 1941


เป็นอะไรที่ยากจะอธิบายจริงๆนะคะกับ 10 รูปนี้
ขอบคุณที่เข้ามาชมค่ะ



Cr.http://www.toptenthailand.com